วันที่ 11 ก.ค.52
วันที่แปดของการเดินทาง...
วันนี้เราได้เดินทางมาที่วัดพระศรีรัตนมหาธาติเชลียง
เป็นวัดที่มีโบสถ์และพระปรางค์ ขนาดใหญ่มาก มีความสง่างามยิ่งนัก ที่วัดนี้เราได้ถวายเทียนพรรษาแก่วัด
องค์ประธานก่อด้วยซิลาแลง ฉาบปูน มีบันไดซุ้มทางเข้าด้านหน้า ซุ้มด้านหน้ามีการวางรูปพระพักตร์ของพระพรมหันหน้าเอามุมออก เพื่อเล่นกับตัวเจดีย์ เช่นศิลปะขอม
วัดกุฎีราย
เป็นอาคารสองหลังขนาดไม่ใหญ่นัก (อีกหลังหนึ่งอยู่เยื้องๆไปด้านหลัง) ก่อสร้างด้วยศิลาแลง (ส่วนมากจะก่อสร้างด้วยศิลาแลงทั้งสิ้น สมัยก่อนอาจจะมีศิลาแลงมากก็เป็นได้ ) หลังคาก็เป็นศิลาแลง มีวิธีการก่อสร้างส่วนทางเข้าโถงของวิหารด้วยวิธีคอร์เบล คือค่อยๆก่อเฉียงๆเข้ามาหากันเรื่อยๆ จะเป็นคนละวิธีกับการทำอาร์ค ซึ่งจะใช้ตัวคีย์สโตนมาเป็นตัววางสุดท้ายด้านหลังจะมีเจดีย์ที่พังแล้วเหลือแต่ส่วนฐาน เนื่องจากสภาพชำรุดจนไม่สามารถคาดเดาแล้วบูรณะได้
สถานที่ต่อมาเราได้มาที่อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย.....
วัดนี้คือวัดพระศรีมหาธาตุ เป็นวัดที่มีขนาดใหญ่ มาก มีคูน้ำอยู่บริเวณด้านหน้า ทำให้อากาศเย็นมากเมื่อเวลาลมพัด วัดนี้ มีส่วนของเจดีย์อยู่มากมาย ตามพื้นที่ภายใน ศิลปะการก่อสร้างเป็นแบบสุโขทัย แต่สันนิษฐานว่าพระอุโบสถหลังหน้าได้ก่อสร้างในสมัยอยุธยา
วัดพระพายหลวง


วัดศรีชุม
วัดนี้เป็นวัดที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นมาก มีการเน้นมิติการมองขององค์พระประธาน ด้วยการการเล่นกับผนังอิฐทึบตันกับช่องเปิดขนาดเล็ก ซึ่งดูแล้วมีความสวยงามเป็นอย่างมาก
ได้มีโอกาศไปชมพระอาทิตตกที่อ่างเก็บน้ำ สวยงามมาก
ทำให้วันนี้เป็นวันที่หลับฝันดีอีกหนึ่งวัน

.................................................................